รับแล้ว “อาทิตย์” นักมวยไทยไล่ตีม็อบฮ่องกง อ้างต้องการปกป้องพ่อบุญธรรม

รับแล้ว “อาทิตย์” นักมวยไทยไล่ตีม็อบฮ่องกง อ้างต้องการปกป้องพ่อบุญธรรม

อาทิตย์ ม็อบฮ่องกง – จากกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงกลุ่มชายฉกรรจ์เสื้อขาวหลายรายดักทำร้ายผู้ประท้วงชาวฮ่องกงในสถานีรถไฟหยึน ลอง (Yuen Long)  ใกล้ชายแดนประเทศจีน จากในคลิปจะเห็นว่ามีการใช้ไม้ท่อนยาวฟาดผู้ประท้วงจนเลือดตกยางออก ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 40 ราย

“หนึ่งในกลุ่มอันธพาลที่เข้าโจมตีทำร้ายผู้ชุมนุมที่สนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงเมื่อคืนนี้ ถูกระบุตัวได้แล้วว่าคือนักมวยไทย “อาทิตย์ เรือนเพชร”

ล่าสุด อาทิตย์ เรือนเพชร นักมวยที่ถูกกล่าวถึงออกมายอมรับแล้วว่าเป็นตน และแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นายอาทิตย์เล่าว่า วันเกิดเหตุวันที่เกิดเหตุไปกินข้าวกับพ่อบุญธรรมชาวฮ่องกง ไปด้วยความสมัครใจเอง เนื่องจากพ่อบุญธรรมมีบุญคุณสนับสนุนเรื่องการชกมวย ที่ทำไปเพราะต้องการปกป้องพ่อบุญธรรม

ด้านครูมวยซึ่งเป็นเพื่อนกับนายอาทิตย์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เคยถูกชวนให้เป็นบอดี้การ์ดกับผู้มีอิทธิพลในฮ่องกง ได้ค่าตอบแทนสมัยนั้น 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน แต่ได้ปฏิเสธไป ส่วนอาทิตย์เป็นเพียงเพื่อนกันในเฟซ พอเห็นข่าวก็ทราบเลยว่านายอาทิตย์ต้องถูกจ้างให้เป็นบอดี้การ์ด และทำตามคำสั่งของนายจ้าง แก๊งมาเฟียในฮ่องกงมักจ้างนักมวยที่เลิกชกแล้วไปคุ้มกัน เพราะที่โน่นเขาจะไม่ค่อยใช้ปืน

รถไฟเหาะขัดข้อง – เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญขึ้นอีกครั้ง เมื่อรถไฟเหาะสไมเลอร์ที่ Alton Tower ส่วนสนุกชื่อดังของประเทศอังกฤษ เกิดหยุดทำงานกะทันหันที่ความสูงกว่า 30 เมตร ทำเอาผู้คนแตกตื่นตกใจไปตามๆ กัน เหตุการณ์นี้เกิดในวันที่ 23 กรกฏา เวลาก่อน 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กว่าเครื่องจะกลับมาทำงานได้อย่างปกติต้องใช้เวลาถึง 20 นาที โดยทีมวิศวกรได้เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ครั้งนี้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน สาเหตุมาจากการชนกันของรถไฟเหาะสไมเลอร์ อุบัติเหตุครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บถึง 16 ราย

กำลังเป็นกระแสไวรัลทางโลกอินเทอร์เน็ต เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ตั้งใจเดินทางระยะไกลเพื่อมาเซอร์ไพรส์แฟนสาว แต่กลับต้องพบฝ่ายหญิงอยู่กับผู้ชายคนอื่น ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @T_Radiosonde เปิดเผยเรื่องราวเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม โดยอ้างว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่รักดังกล่าวนั้น เป็นความสัมพันธ์ระยะไกล (Long-Distance Relationship) โดยทั้งคู่ห่างกันถึง 2,400 กิโลเมตร (11491.29 ไมล์) เลยทีเดียว

เจ้าของเรื่องอ้างว่า ฝ่ายชายเดินทางมาเพื่อเซอร์ไพรส์แฟนของเขา ถึงขั้นที่ไปซื้อชุดคอสตูมหมีมาใส่ไว้ ก่อนเดินไปเจอเซอร์ไพรส์เสียเอง เมื่อฝ่ายหญิงกำลังจะซื้อของกินกับกิ๊กหนุ่มของเธอ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกบันทึกไว้หลายภาพ ซึ่งขณะนี้กำลังโด่งดังเป็นพลุแตกทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค หลังจากที่เจ้าตัวจับได้ว่าแฟนสาวอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง เขาจึงถอดหัวหมีออกมา แสดงตัว จนทำให้ฝ่ายหญิงถึงกับช็อค (แม้กระทั่งคนขายอาหารถึงกับเอามือไปกุมขมับ)

ท้ายที่สุด ชายหนุ่มผู้โชคร้าย สวมหมวกหมีคืน ปิดบังคราบน้ำตาบนใบหน้า แล้วเดินจากไป จนทำให้ผู้หญิงคนดังกล่าววิ่งตามมา พร้อมฉากสุดท้ายที่ทำให้เราเห็นว่า เธอกอดแฟนตัวจริงของเธอเอาไว้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ประเทศจีน ส่วนรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนหรืออย่างไร ยังไม่ได้รับการยืนยันในขณะนี้

อุบัติเหตุรถตู้ในฟินแลนด์ เผยมีแรงงานไทยรับจ้างเก็บเบอร์รี่เจ็บระนาว

เช้าวานนี้ (23 ก.ค.) เพจเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ (Royal Thai Embassy, Helsinki) ได้รายงาน อุบัติเหตุรถตู้บรรทุกแรงงานชาวไทยที่รับจ้างเก็บเบอร์รี่ป่าชนประสานงากับรถของคนท้องถิ่นที่วิ่งสวนมา เกิดเหตุบนถนนหมายเลข 694 ห่างจากกรุงเฮลซิงกิไปทางเหนือ ประมาณ 4 ชั่วโมง

โดยผู้โดยสารที่เป็นแรงงานชาวไทยในรถตู้ดังกล่าวมีทั้งหมด 10 คน ทำงานให้กับบริษัท Polarica Oy และอุบัติเหตุในครั้งนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 8 รายและสาหัส 2 ราย โดยหน่วยกู้ชีพได้นำตัวผู้บาดเจ็บทุกคนรวมถึงคนขับรถคู่กรณีส่งโรงพยาบาลแล้ว

ด้านนายนพพร อัจฉริยวนิช เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กงสุลติดต่อแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อสอบถามอาการแรงงานคนไทยทั้งหมด และได้รับรายงานว่าคนไทย 2 รายที่บาดเจ็บสาหัสอาการยังทรงตัว และยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ภายในวันเดียวกัน

ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตนพพร ก็ได้ติดต่อผู้บริหารของบริษัท Polarica Oy ที่ได้นำแรงงานชาวไทยไปเก็บเบอร์รี่ในป่าของฟินแลนด์ เพื่อให้ช่วยดูแลคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บทั้งในเรื่องการรักษาพยาบาลและคดีความด้วย ซึ่งทางผู้บริหารได้ตอบรับว่าจะดำเนินการอย่างดีที่สุด

เหตุการณ์นี้ นับเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องเหตุการณ์ที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมาเกิดเหตุรถตู้โดยสารพลิกคว่ำที่ประเทศเกาหลีใต้ ทำให้แรงงานสาวชาวไทย 2 รายเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทผู้วัคซีนโมเดอร์นา ได้ออกมาเปิดเผยผลทดลองประสิทธิภาพของวัคซีนโมเดอร์กับโควิดกลายพันธุ์ ซึ่งทางบริษัทยืนยันว่าวัคซีนโมเดอร์นาสามารถป้องกันโควิดกลายพันธุ์ได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อสายเดลต้า, เบต้า หรือ แคปป้า

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า