ออมสิน เผย สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ ปล่อยครบวงเงินแล้ว

ออมสิน เผย สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ ปล่อยครบวงเงินแล้ว

ธนาคารออมสิน (GSB) ทำการเปิดเผยความคืบหน้าโครงการ สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ โดยในเวลาได้เปิดให้กู้จนครบวงเงินโครงการ 5,000 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (22 ส.ค. 2565) ธนาคารออมสิน (GSB) ได้ทำการเปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการ สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ ที่เปิดให้กู้จนครบงเงินโครงการ 5,000 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยช่วยเป็นทุนตั้งต้นในการประกอบอาชีพใหม่ได้ถึง 130,000 กว่าราย

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน 

เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารออมสินได้เปิดตัวสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ เพื่อเป็นเงินทุนช่วยเหลือประชาชนได้นำไปตั้งต้นประกอบอาชีพใหม่ ภายใต้ โครงการออมสิน สร้างงาน สร้างอาชีพ ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงการคลังมอบหมายให้ธนาคารออมสินดำเนินการเพื่อช่วยฟื้นฟูและช่วยเหลือประชาชนผู้ตกงานหรือขาดรายได้ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้มีความรู้ในอาชีพตามความถนัด มีช่องทางประกอบอาชีพ มีรายได้ ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ธนาคารได้เดินหน้าแนะนำ ให้ทักษะ และเป็นแหล่งทุน โดยได้อนุมัติสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพเพื่อไปเริ่มต้นอาชีพใหม่รวมจำนวนกว่า 130,000 ราย ซึ่งครบวงเงินโครงการ 5,000 ล้านบาทแล้ว

อาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ใช่ช่าง 86,859 ราย คิดเป็น 67.93% ของจำนวนรายที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อ ผู้ประกอบวิชาชีพช่าง 18,895 ราย คิดเป็น 14.78% และธุรกิจขนาดเล็ก 10,638 ราย คิดเป็น 8.32% ตามลำดับ

สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ เป็นเงินกู้สำหรับผู้เริ่มประกอบอาชีพ/ผู้ประกอบการรายย่อย วงเงินให้กู้ตั้งแต่ 50,000-300,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.99% (Effective Rate) ต่อปี ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระ 6 งวดแรก ภายใต้โครงการ ออมสิน สร้างงาน สร้างอาชีพ

โดยธนาคารออมสินได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 มุ่งหวังให้ประชาชนสามารถต่อยอดสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “4 ให้” ได้แก่ ให้ทักษะ ให้เงินทุน ให้อุปกรณ์ และ ให้พื้นที่ค้าขาย ถือเป็นการมอบความช่วยเหลือที่ยั่งยืนให้กับประชาชนให้สามารถพึ่งพิงตนเองได้ในระยะยาว

ทั้งนี้ ธนาคารได้จัดกิจกรรมให้ทักษะความรู้หรืออบรมวิชาชีพมากกว่า 10 ช่องทาง ครอบคลุมหลากหลายอาชีพ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 77,000 ราย จากเป้าหมายมีผู้อบรมรวม 50,000 ราย ไม่นับรวมการให้อุปกรณ์ และให้ใช้พื้นที่บริเวณสำนักงานธนาคารออมสินภาค/เขต/สาขา ได้จำหน่ายสินค้า/บริการ ฟรี อีกด้วย

เงินบาทเปิดอ่อนค่า 35.80 บาท ตลาดหวั่นดอกเบี้ยเฟดขึ้น หลังดอลลาร์แข็ง

ตลาดมีหวั่นหลัง เงินบาทอ่อนค่า 35.80 บาท ต่อดอลลาร์ ทำสถิติใหม่ในรอบ 3 สัปดาห์ จับตาเศรษฐกิจชะลอตัว และการเฟดดอกเบี้ยนขึ้น เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย ได้ออกมากล่าวว่า “ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (22 ส.ค.65) อยู่ที่ระดับ 35.80 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลง จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 35.74 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อมองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.30 – 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว”

สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท ประเมินว่า เงินบาทมีความเสี่ยงที่จะผันผวนอ่อนค่าทดสอบแนวต้านใกล้ 35.90 บาทต่อดอลลาร์ ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ส่วนนักลงทุนต่างชาติอาจทยอยขายทำกำไรหุ้นไทยหรืออาจรอจังหวะให้หุ้นไทยย่อตัวลงบ้าง ก่อนจะซื้อเพิ่ม ทำให้เงินบาทอาจขาดแรงหนุนฝั่งแข็งค่า ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทอาจถูกชะลอลงด้วยแรงขายเงินดอลลาร์จากผู้ส่งออก รวมถึงผู้เล่นบางส่วนที่ยังมองแนวโน้มเงินบาทแข็งค่า

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นต่อได้ หากตลาดเชื่อว่าเฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงต่อ นอกจากนี้ความกังวลเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวหนักก็มีส่วนช่วยหนุนเงินดอลลาร์ผ่านแรงกดดันต่อเงินยูโร (EUR)

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน สัปดาห์ที่ผ่านมา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดและรายงานการประชุม FOMC ล่าสุด ได้กดดันให้ตลาดกลับมากังวลแนวโน้มเฟดเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย

ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ตลาดจะรอประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟดจากถ้อยแถลงของประธานเฟดในงานประชุม Jackson Hole พร้อมกับจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของบรรดาเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการในเดือนสิงหาคม

ก็จะทำให้เกิดข้อสงสัย และคงจะต้องมีการศึกษาวิจัยโดยเร่งด่วนว่า วัคซีนป้องกันฝีดาษคน ที่มีข้อมูลการวิจัยในอดีตว่าป้องกันฝีดาษลิงได้ 85% นั้น ณ ปัจจุบัน ยังสามารถป้องกันฝีดาษลิงได้หรือไม่ และมีประสิทธิผลมากน้อยเพียงใด

“ 2 ทุ่มคืนนี้!! มีแถลงข่าวใหญ่เกี่ยวกับ #กาแล็กซีทางช้างเผือก ผลงานการค้นพบครั้งสำคัญของเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ Event Horizon Telescope (EHT) ติดตามได้ที่นี่ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ”

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า